NBCการันตีผลงานQ2ไหลลื่น หวังปั้นรายได้ทั้งปีเติบโต20%

NBCการันตีผลงานQ2ไหลลื่น หวังปั้นรายได้ทั้งปีเติบโต20%

บอสใหญ่ NBC “อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ” เผยผลงานไตรมาส 2/53 สดใส การันตีรายได้-กำไรดีต่อเนื่อง ชี้ไร้ผลกระทบจากปัญหาการเมือง ประกาศพร้อมเปิดตัวรายการใหม่แบบอลังการณ์และยิ่งใหญ่ในวันที่ 12 มิ.ย.นี้ ที่ สี่แยกราชประสงค์ ระบุแม้ปีนี้ผลงานแจ่มแต่ยังคงเป้ารายได้เติบโตที่ 20% พร้อมเดินหน้าโครงการ 3 จีต่อเนื่อง ขณะที่ปัจจุบันคว้างานราชการของกระทรวงวัฒนธรรมแล้วมูลค่า 4 ล้านบาท โบรกแนะ “ซื้อเก็งกำไร” ในกรอบรับ 5.20 บาท และต้านที่ 5.45 บาท


นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) NBC เปิดเผยว่า ในไตรมาส 2/2553 บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ชมเป็นอย่างมาก และคาดว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการทั้งรายได้และกำไรจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่องจากไตรมาสแรก ที่ทำรายได้รวม 123.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26% โดยเฉพาะช่อง Nation Channel ที่เติบโตถึง 121% ซึ่งมั่นใจว่ากลุ่มคนดูโทรทัศน์ดาวเทียมจะมีเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกำไรจากการดำเนินงาน 26.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วกว่า 400% และในช่วงสถานการณ์การเมืองที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้รับผลกระทบทางการเมืองแต่กลับได้ประโยชน์เพิ่มขึ้นจากการที่คนหันมาชมรายการข่าวมากขึ้น

สำหรับการเปิดตัวรายการแมงโก้ทีวีในวันที่ 12 มิ.ย.2553 บริษัทจะทำการเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่โดยสถานที่จะจัดงานขึ้นที่ย่านสี่แยกราชประสงค์  และการจัดงานในครั้งนี้คาดว่าจะมีผู้ให้ความสนใจมากกว่า 1 พันคน โดยจะเช่าสถานที่เออร์เบิ้น สเปซ ซึ่งคาดว่ารายได้จะปรับขึ้นมาเป็นรายได้จากเนชั่นชาแนลบวกแมงโก้ทีวี ที่เหลือเป็นนิวมีเดีย โดยหวังว่ารายได้จะมากขึ้น และคาดว่าจะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ในปีนี้

***คงเป้ารายได้โต 20%***
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% เพิมขึ้นจากปีก่อนที่ 463.66 ล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้ทำการเปิดช่องรายการใหม่ และการพัฒนาคุณภาพของรายการให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังมีนโยบาย Social Media Networking ในเชิงรุก ด้วยการสนับสนุนให้พนักงานทุกส่วนในบริษัทเข้าไปใน Social Media ในการรายงานข่าวประจำวัน และสื่อสารกับกลุ่มผู้ชมและผู้ฟัง ให้มีความใกล้ชิดกับผู้ดำเนินรายการและนักข่าวมากขึ้น ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีนักข่าวรวมทั้งหมดประมาณ 200 คนขึ้นไป

อกจากนี้บริษัทยังได้วางนโยบายให้เป็นผู้ดำเนินรายการ ,นักข่าว ,โปรดิวเซอร์ และพนักงานที่อยู่เบื้องหลังการผลิตรายการได้แสดงตัวตนของตัวเอง หรือแบรนด์ส่วนบุคคล (Personal Brand) บนโลกออนไลน์ผ่าน Twitter Facebook และ Youtube เชื่อมโยงกับ www.oknation.net/blog ที่เป็นเว็บไซต์รวบรวมนักข่าวพลเมือง (Citizen Reporter) ทำให้มียอดเข้าเว็บไซต์นี้เพิ่มขึ้นร่วม 20% เป็นกว่า 120,000 UIP ต่อวัน เพื่อเป็นการเพิ่มศักยภาพจุดแข็งของบริษัทให้เพิ่มมากขึ้น

***เดินหน้าโครงการ 3จี***
ขณะที่ โครงการ 3 จี ในช่วงนี้บริษัทได้ทำการทดลองใช้กับเครื่องโทรศัพท์ ,โทรทัศน์ซึ่งก็ได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งบริษัทได้ทำการทดลองศึกษาความเป็นไปได้ร่วมกับบริษัทTOT และบริษัท สามารถเทเลคอม แต่โครงการนี้จะผ่านได้หรือไม่ต้องรอความเห็นชอบจากภาครัฐบาลว่าจะอนุมัติโครงการดังกล่าวหรือไม่ และถ้าเกิดขึ้นจริงก็จะช่วยผลักดันให้บริษัทสามารถเพิ่มมูลค่าของคอนเท้นท์ได้มากขึ้นเช่นกัน เนื่องจากจำนวนความเร็วอินเตอร์เน็ตที่สูงขึ้นประกอบกับผู้บริโภคส่วนใหญ่มีโทรศัพท์มือถือที่มีเทคโนโลยีรองรับ จะสามารถรับชมรายการได้สะดวกและง่ายขึ้นเมื่ออยู่นอกสถานที่

***โดดคว้างานภาครัฐ***
สำหรับในปีนี้บริษัทได้รับงานของภาครัฐจำนวน 1 โครงการเป็นของกระทรวงวัฒนธรรม มีมูลค่า 4 ล้านบาท และจะเริ่มรับรู้รายได้ในปีนี้ทั้งหมด ซึ่งเป็นงานด้านสารคดี ในขณะเดียวกันบริษัทได้ผลิตรายการสารคดีไทยที่ส่งไปขายยังต่างประเทศจัดทำเป็นรูปแบบภาษาอังกฤษ ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจ ขณะนี้ทางทวีปยุโรปก็ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

ปัจจุบันบริษัทมีฐานคนดูจำนวน 2 ล้านครัวเรือนในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ซึ่ง Nation Channel ได้เพิ่มช่องทางการรับชมผ่านดาวเทียมไทยคม ระบบ C-Band ทำให้มีฐานผู้ชมทั่วประเทศเพิ่มจาก 3.5 ล้านครัวเรือน และปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.5 ล้านครัวเรือนโดยผู้ใช้จานดาวเทียมพีเอสไอ ระบบ O2 สามารถรับชมช่อง Nation Channel ทางช่องหมายเลข 5 และจานดาวเทียมไทยคมระบบ KU-Band (จานเหลือง) ช่องหมายเลข 35สำหรับราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นไม่มีนัยสำคัญ แต่อาจเป็นเพราะนักลงทุนให้ความสนใจในตัวบริษัทที่มีพื้นฐานของแข็งแกร่ง

นักวิเคราะห์ทางเทคนิค บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย)จำกัด (มหาชน) ระบุว่าหุ้น NBC มีการปรับตัวขึ้นระยะสั้น ดังนั้นแนะ “ซื้อ” เก็งกำไร ในกรอบ แนวต้านแรกที่ 5.45 บาท แนวต้านถัดไป 5.60 บาท ส่วนแนวรับแรกอยู่ที่ 5.20 บาท และแนวรับถัดไปที่ 5.15 บาท